วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Evo VII-VIII-IX ที่ใครๆก็คิดว่าแค่ Cedia

Evolution VII

ผลิตขึ้นในปี 2001 จำนวน ตัวถังรหัส CT9A รุ่นที่ผลิต GSR , RS , GTA
บอดี้
ได้รับการพัฒนามาจาก Mitsubishi รุ่น CEDIA ในบ้านเรา ปรับปรุงด้านความแข็งแรงในส่วนต่างๆให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง ซุ้มช็อคหน้า – หลัง คานหน้า เสาประตู จุดยึดช่วงล่าง และคานป้องกันการบิดตัวต่างๆ เพื่อรับมือกับแรงม้า และแรงบิด ที่มากขึ้น บอดี้มีความยาว 4,455 มิลลิเมตร กว้าง 1,770 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 2,625 มิลลิเมตร กันชนหน้าแบบช่องระบายความร้อนอินเตอร์คูเลอร์ กระจังหน้าแบบเปิดกว้าง นอกจากนี้ยังมีการลดน้ำหนักตัวถัง ด้วยการเปลี่ยนกระจกหน้าให้บางลงอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ฝากระโปรงหน้า และแก้มหน้าเป็นอะลูมิเนียม ในรุ่น GSR มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 1,400 กิโลกรัม
เครื่องยนต์
ยังยืนหยัดกับ 4G63 ครั้งนี้ ทาง Mitsubishi ได้ทำการเพิ่มเติมเสริมความแรงจาก Evo VI ( 6.5 ) รุ่น Tommi Makinen ด้วยการเปลี่ยนเทอร์โบใหม่ให้มีค่า A/R ไอเสียให้น้อยลง และโข่งหลังแบบ 2 NOZZLE ปรับปรุงท่อไอดี และพอร์ตไอดีให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ในรุ่น TD05 HR-16G 6-9.8T ส่วนในรุ่น RS ยังคงใช้แบบเทอร์โบแบบไททาเนี่ยมรุ่น TD05 HRA-16G 6-9.8T เฮดเดอร์ไอเสียให้มีความโค้งน้อยลงช่วยลดแรงดันไอเสียย้อนกลับ แคมชาฟท์รุ่นใหม่แบบภายในกลวง ลดภาระการทำงานให้กับเครื่องยนต์ และ Rocker Cover แบบ Magnesium ป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฝาสูบในรอบสูง ขยายอินเตอร์คูเลอร์ขนาดกว้างขึ้นอีก 20 มม. เปลี่ยนท่ออินเตอร์เป็นแบบอลูมิเนียม หัวฉีดน้ำอินเตอร์จาก 2 หัวเป็น 3 หัว และออยล์คูลเลอร์ให้กว้างขึ้นอีก 30 มม. ป้องกันปัญหาเรื่องความร้อนได้อย่างเห็นผล และทำให้เครื่องยนต์มีแรงบิดมากกว่าเดิมจาก 38.0 กก.-ม. เป็น 39.0 กก.-ม ที่ 3,500 รอบต่อนาที
ช่วงล่าง
เพิ่มเทคโนโลยี ACD หรือ ACTIVE CENTER DIFFERENTIAL ทำหน้าที่กระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้า และหลังให้สมดุลกัน ที่จะทำงานร่วมกันกับ AYC เพื่อให้เกิดการตอบสนองกับพวงมาลัยให้มากที่สุด ระบบเบรกแบบ ABS + ESB ซึ่งใช้คอมพิวเตอร์คำนวณแรง G แล้วสั่งการห้ามล้อให้เหมาะสมกับสภาพถนน และใน Evo 7 ได้รับการพัฒนาระบบเกียรให้มีอัตราทดที่จัดจ้านขึ้น แบบ SUPER CLOSE RATIO แบบ 5 จังหวะในรุ่น W5M51 และเกียรออโตเมตริกแบบ INVECS – II ในรุ่น GTA ซึ่งถือเป็น Evo สายพันธ์แรกที่เป็นเกียรออโต้ ช่วงล่างแบบปีกนกอลูมิเนียม โดยขยายฐานล้อขึ้นอีก 15 มม. ทั้งหน้าและหลัง เพิ่มช่วงชักช็อคหน้าอีก 15 มม. พร้อมดิสเบรกของ BREMBRO ทั้ง 4 ล้อ


Evolution VIII

ผลิตขึ้นในปี 2003 รหัสตัวถัง CT9A รุ่นที่ผลิต GSR , RS , MR ( Mitsubishi Racing )
บอดี้
ปรับปรุงจาก Evo 7 เพียงเล็กน้อย เช่นกันชนหน้าที่มีโลโก้ตรงกลางเป็นทรง V Shape Nose กันชนข้างมีครีบช่วยรีดอากาศออกด้านข้างตัวรถ และแผ่นปิดบังลมใต้ห้องเครื่อง ที่จะทำให้ลดค่าแรงเสียดทานอากาศ รวมทั้งกระแสลมหมุนเวียนใต้ท้องรถ และช่วยระบายความร้อนให้กับอินเตอร์คูเลอร์ได้มากขึ้น หลังคาในรุ่น MR จะเป็นอลูมิเนียม ช่วยลดน้ำหนัก และลดแรงเหวี่ยงในขณะเข้าโค้ง พร้อมครีบจัดเรียงอากาศ Blowtec Generator เป็นครีบปลาฉลาม 8 ตัวท้ายหลังคาช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศจาก 0.36 เป็น 0.355 สปอยเลอร์หลังทำจากพลาสติก ผสมคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา และแข็งแรงมากขึ้น คานกันกระแทกในประตูเปลี่ยนเป็นแบบอลูมิเนียม มิติตัวถังมีความยาว 4,490 มิลลิเมตร กว้าง 1,770 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,625 มิลลิเมตร เท่ากับ Evo 7 แม้จะมีอุปกรณ์เพิ่มขึ้นมากแต่น้ำหนักตัวมากขึ้นเพียง 70 กิโลกรัม เป็น 1,470 กิโลกรัมเท่านั้น
เครื่องยนต์
ปรับปรุงให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นอีก โดยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดจะมารวมอยู่ในรุ่น MR ( Mitsubishi Racing )ด้วยลูกสูปฟอร์จจากโรงงาน แหวนลูกสูบเคลือบ Ion Coat ลดแรงเสียดทานภายในกระบอกสูบ เสริมปะเก็นเหล็กฝาสูบให้หนาขึ้นจาก 3 ชั้นเป็น 5 ชั้น เพิ่มบูชให้เพิ่มขึ้นเป็น 19 ปอนด์จากโรงงานในช่วง High Boot เพิ่มองศาแคมชาฟท์ไอดีให้สูงขึ้น สปริงวาล์วน้ำหนักเบาลงเพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ เฮดเดอร์ไอเสียท่อไอเสียแบบโล่ง และลื่นขึ้น ทำให้แรงบิดของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 40.8 กก.- ม ที่รอบเท่าเดิม
ช่วงล่าง
ระบบ AYC ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นเรียกว่าระบบ Supper AYC ทำงานร่วมกับ ACD ปรับปรุงจุดยึดต่างๆของช่วงล่าง และช็อคอัพหน้า – หลัง เปลี่ยนเป็นของ BILSTEIN ปรับความแข็งอ่อนได้ นุ่มนวล และเกาะถนน ระบบการเข้าเกียรจากขาคันชัก เป็นสายเคเบิล เข้าเกียรได้กระชับ และแม่นยำขึ้น เกียรใน Evo8 มีให้เลือกทั้งในรุ่น 5 Speed และ 6 Speed พร้อมล้อของ BBS ขอบ 17 นิ้วกับยาง 235/45ZR17

Evolution IX

ผลิตขึ้นในปี 2006 รหัสตัวถัง GH-CT9A รุ่นที่ผลิต GSR , RS , GT , MR
บอดี้
กันชนหน้าถูกปรับเปลี่ยนใหม่จาก Evo 8 ที่มีจมูกเป็นแบบกระจังหน้าเปิดกว้าง ช่องรับลมที่กว้างขึ้น พร้อมช่องไฟสปอร์ตไลท์ ทำหน้าที่รับลมมาระบายความร้อนอินเตอร์คูเลอร์ กันชนหลังปาดท้ายแบบ Difuser เพื่อรีดลมหมุนวนด้านท้ายรถ ลดแรงดึงของลมที่จะทำให้รถวิ่งช้าลง สปอยเลอร์หลังเป็นแบบเดียวกับ Evo 8 MR มิติตัวถังรถ กว้าง 1,770 มม. กว้าง 4,490 มม. ยาว 1,450 มม. ระยะฐานล้อ 1,515 มม. ทั้งหน้า – หลัง น้ำหนักตัวในรุ่น GSR หนัก 1,410 กก. และในรุ่น RS เพียง 1,320 กก. ภายในของ Evo XI มีลักษณะเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยแผงหน้าปัด คอนโซล เน้นสีเทาดำลายเคฟล่า เบาะเป็นของ RECARO แบบ Bucket Seat กำมะหยี่สลับหนัง Alcantara เพิ่มความกระชับตัวผู้ขับขี่
เครื่องยนต์
รหัส 4G63 ด้วยระยะช่วงชัก กำลังอัดเท่าเดิม 8.8:1 แต่ได้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ฝาสูบอัจฉริยะ MIVEC หรือ Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control System เป็นกลไกลในการปรับจังหวะ Overlap หรือจังหวะที่วาล์วไอดี และไอเสียเปิดพร้อมกันในจังหวะคาย ซึ่งในอุดมคติถ้าจังหวะ Overlap มากหรือ วาล์วไอดี-ไอเสียเปิดพร้อมกันอยู่มาก จะทำให้ไอดีเย็น เข้ามาไล่ไอเสียอากาศร้อนได้มาก เครื่องจึงมีการเผาไหม้ได้สมบรูณ์มากกว่าได้กำลังเพิ่มขึ้น แต่ในช่วงรอบต่ำถ้า Overlap มาก เครื่องจะเดินเบาไม่นิ่งเพราะเกิดการสูญเสียกำลัง กลไกล MIVEC จะทำการปรับ Relard ให้จังหวะ Overlap น้อยลง (วาวล์ไอดี และวาวล์ไอเสียเปิดพร้อมกันเร็วขึ้น ) พอรอบสูงก็ปรับ Ovrelap ให้สูงขึ้น เครื่องจึงมีอัตราเร่งดีทั้งในรอบต่ำและรอบสูง เทอร์โบยังคงใช้ แบบไททาเนียมผสมอัลลอย โดยขนาดของโข่งหน้าให้ใหญ่ขึ้นอีก ในรุ่น TD05 HR-16G-C 10.5T ส่วนรุ่น RS จะใช้เทอร์โบแบบไททาเนียมรุ่น TD05 HRA-16 G-10.5T ทำให้แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 41.5 กก.- ม. แต่แรงม้ายังคงยันเพดานบินที่ 280 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที
ช่วงล่าง
พัฒนา Super AYC และ ACD ให้ทำงานได้สัมพันธ์กันมากขึ้น ช่วงล่างอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทด้านหน้า และ มัลติลิงค์อิสระด้านหลัง ช็อคอัพของ BILSRTIEN และระบบเบรค BREMBO ทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบ ABS ส่งผ่านเกียรอัตตราทดชิด มีให้เลือกทั้ง 5 จังหวะ และ 6 จังหวะ ล้อแม็คขนาด 17 นิ้วของ ENKEI กว้าง 8 นิ้ว พร้อมยาง 235/45ZR17 ทำให้ความเร็วตีนปลายของ Evo 9 ทำได้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างสบายๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น